ถิ่นกำเนิด
พบในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่ตามไร่ข้าวโพด ยุ้งฉาง และตามบ้านเรือนคน ชื่อ ”คอร์นสเน็ค” มาจากลวดลายคล้ายข้าวโพดบริเวณใต้ท้องของงู
ลักษณะเด่น
นิสัยเชื่อง ขี้อาย ชอบซ่อนตัว ไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ ตัวลื่น เกล็ดแข็งเรียบ ลวดลายสวยงาม มีสีส้ม หรือเหลืองน้ำตาล เลี้ยงง่ายเมื่อเทียบกับงูชนิดอื่น จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาด 1.2–1.8 เมตร อายุขัยของงูที่อาศัยตามธรรมชาติเฉลี่ยประมาณ 6–8 ปี แต่ถ้าเป็นงูเลี้ยงอาจมีชีวิตนานถึง 23 ปี หรือมากกว่านั้น
พฤติกรรมการล่าเหยื่อ งูจะหลบในที่สงบเพื่อดักรอเหยื่อ หรือลงไปใต้ดินเพื่อค้นหาที่อยู่อาศัยของหนู ดังนั้น เมื่อนำงูชนิดนี้มาเลี้ยง ควรเลี้ยงในตู้กระจก หรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับตัวงู พื้นภายกล่องควรปูรองให้หนาไว้สำหรับขุดโพรง สามารถใช้ทรายแมวชนิดไม้อัด ขี้เลื่อย หรือเปลือกมะพร้าวได้ งูจะได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรมชาติ ที่สำคัญต้องมีบ่อน้ำไว้สำหรับให้งูกินน้ำและแช่น้ำ ภาชนะที่ใช้ควรเป็นดินเผา
การสืบพันธุ์
ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงเดือน มีนาคม–พฤษภาคม และจะเริ่มวางไข่ในช่วงท้ายของเดือน พฤษภาคม–กรกฎาคม ประมาณ 10–30 ฟอง อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 82 °F เมื่อวางไข่แล้วจะทิ้งไข่ไว้โดยไม่ดูแล หรือเฝ้าเหมือนงูชนิดอื่น ใช้เวลาในการฟัก 60-65 วัน ลูกงูแรกเกิดจะมีความยาว 25–38 เซนติเมตร โตเต็มที่เมื่ออายุ 18–36 เดือน ค่ะ
อาหาร
หนูไมซ์เป็นอาหารของงูคอร์นที่มีคุณค่าโภชนาการครบถ้วนตามที่งูสมควรจะได้รับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องใช้อาหารเสริมเลย งูคอร์นจะกินอาหารโดยการกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัวเหมือนกับงูชนิดอื่น ๆ ในบางตัวสามารถให้กินอาหารชนิดอื่น ๆ ได้ เช่น หนูแรท ลูกเจี๊ยบแช่ ฯลฯ
ไม่ต้องเสียเวลามาดูแลหนูอีกทั้งยังสามารถเก็บไว้ได้นาน แถมยังทำลายเชื้อโรคบางชนิดจากการแช่แข็งได้ด้วย
โรคติดต่อ
เจ้างูชนิดนี้มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อโรคทางเดินอาหารหลายชนิด แถมยังนำเชื้อไปสู่คนได้ เช่น เชื้อบิด เชื้อแบคทีเรีย หรือพยาธิ ดังนั้น พื้นที่ใช้เลี้ยงต้องแยกห่างจากบริเวณปรุงอาหาร หลังสัมผัสงูทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาดเพื่อรักษาอนามัยของผู้เลี้ยง
ข้อแนะนำ
1.ควรทำการศึกษาข้อมูลก่อนเลี้ยง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไม่ยากเมื่อเทียบกับงูชนิดอื่น แต่ก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แม้จะเป็นงูไม่มีพิษ ทว่าสามารถทำอันตรายต่อเด็ก และบุคคลอื่นได้เช่นกันค่ะ
2.เลือกซื้องูข้าวโพดที่มีการตอบสนองดี สีสันสดใส ลวดลายชัดเจน และควรสังเกตความผิดปกติของตัวงูว่าไม่มีลักษณะที่ผิดแปลก เช่น ปรสิต บาดแผล ลำตัวตรงไม่คดงอ ดวงตาใส เป็นต้น
3.หากเลี้ยงแล้วเกิดข้อสงสัย หรือพบว่ามีปัญหาในการเลี้ยง ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
แหล่งที่มาข้อมูล : www.petcitiz.info